“สุเทพ”เชื่อ พปช.ใบแดงว่อน
- ปชป.ยังไม่จองฝ่ายค้าน
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนส่งเทียบเชิญพรรคชาติไทย และพรรคเพื่อแผ่นดินเข้าร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการว่า วันนี้ตนยังไม่คิดว่าพรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ในการจัดตั้งรัฐบาลและการส่งเทียบเชิญเป็นการทำให้ดูเป็นทางการเท่านั้นเอง แต่ข้อยุติคือวันที่กกต.ประกาศรับรอง ส.ส.ว่ามีเท่าไหร่ และสถานการณ์อย่างนี้คิดว่าถ้าตนเป็นพรรคเพื่อแผ่นดิน พรรคชาติไทย และพรรคเล็ก จะไม่พลีพล่าม ต้องรอให้กกต. พิจารณาใบเหลือง ใบแดงของ เสร็จสิ้นเสียก่อน สมมุติว่าถ้าเขาแถลงรัฐบาลร่วมกัน ตัวเลขเปลี่ยนไป แต่วันเข้าสภาผู้แทนราษฏร ยังมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงได้อีก ตนถึงไม่ตื่นเต้นอะไร ยังนั่งฟังได้ทุกวัน เหมือนดูละครสนุก ออกมาแต่ละฉาก โศกสลด เช้าด่าเย็นส่งเทียบเชิญ” นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเพราะพรรคพลังประชาชนกลัวว่าจะโดนใบเหลือง ใบแดงมากจึงต้องรีบจับขั้วกับพรรคอื่นๆไว้ก่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถ้ากลัวอย่างนั้นถือว่าเป็นพิรุธ ตนจึงคิดว่า ไม่ควรจะรีบ แต่ถ้ามองในแง่พรรคพลังประชาชน เชื่อว่าพรรคพลังประชาชนกลัวใบเหลือง ใบแดงมาก เพราะพรรคพลังประชาชนรู้ดี ถ้าพูดอย่างคนธรรมดาที่ไม่ใช่นักกฎหมาย ในกรณีการแจกซีดี ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในจังหวัดต่าง ถือว่าผิดและเข้าข่ายใบเหลือง ใบแดงแน่ และเมื่อตรวจสอบจะพบว่ามีการแจกซีดี ในหลาย 10 จังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือแลพภาคอีสาน ทำกันเป็นขบวนการใหญ่โต ดูได้จากกรณีของนายประแสง มงคลศิริ ผู้สมัครส.ส.อุทัยธานี พรรคพลังประชาชน ที่โดนเรื่องซีดี มีคนแนะนำให้นายประแสงรีบลาออก มิฉะนั้นกรณีซีดี จะเป็นกรณีแรกที่จะโดนใบแดง และถ้านายประแสงโดนใบแดงจะกลายเป็นบรรทัดฐานสำหรับทุกกรณี ตนจึงคิดว่าไม่ว่าจะอย่างไรกรณีของนายประแสง ผิดแน่ๆ และโดนใบแดงแน่ และวันนี้มีคนร้องเรียนเรื่องซีดี อย่างน้อย 30 กว่าเขตเลือกตั้ง ซึ่งตนได้บอกกับผู้สมัครที่ได้คะแนนเป็นอันดับ 2 ให้เตรียมความพร้อมโดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคกลาง ทั้งนี้ก็จะมีการสั่งการเป็นรายบุคคลไป โดยให้ว่าที่ส.ส.เข้าไปช่วยในการรณรงค์หาเสียงด้วย
ต่อข้อถามว่ามีข่าวว่านายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ว่าที่ส.ส.เชียงราย ไม่ยอมไปให้ปากคำ กกต. นายสุเทพ กล่าวว่า ถึงแม้ว่า ผู้กระทำความผิดจะไม่ไปชี้แจงหรือขอเลื่อนถ่วงเวลาไป กกต.ก็คงจะพิจารณาได้หากปรากฎพยานหลักฐานที่ทำให้ กกต.เชื่อได้ว่า ผู้นั้นกระทำความผิดจริงก็ตัดสินได้ ส่วนจะพิจารณาไปถึงพรรคว่ารู้เห็นเป็นใจหรือสมคบกันหรือไม่นั้น กกต.จะต้องเป็นผู้พิจารณา ตอนนี้ตนเชื่อว่าการข่มขู่หรือแกดดัน กกต. ต้องมี ตนได้ข่าวด้วยซ้ำว่ามีความพยายามไปว่าจ้างประชาชนในบางจังหวัดให้มาร้อง กกต. แต่ตนเชื่อว่ากกต.ทำหน้าที่ที่ให้ความยุติธรรมกับประชาชนอะไรต่างๆ เหล่านี้คงไม่ทำให้เกิดความหวั่นไหว
“ การทำงานของ กกต.ถือว่ามีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลมาก สมมุติว่าพรรคพลังประชาชนโดนใบแดงสัก 60 ใบ อาจจะเหลือ 160 ที่นั่ง ก็สูสีกับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองที่จะมาร่วมรัฐบาลจะมาร่วมกับพรรคพลังประชาชนหรือไม่ ผมไม่ได้สมมุติอย่างเลื่อนลอย แต่เห็นว่าเขาทำความผิดมากจริงๆ และทำความผิดโดยไม่คิดว่าวันหนึ่งจะถูกจับได้ เช่นการแจกซีดี ที่แจกกันหลาย 10 จังหวัดและถ้าผิดก็มหาศาลเลย อย่างกรณีการซื้อเสียงที่จังหวัดจังหวัดเชียงราย อย่างน้อยก็ต้องหายไป 12 ที่นั่ง หากเราได้คนที่ชนะการเลือกตั้งมาโดยโดยไม่สุจริต เราก็จะได้นายกฯ ที่ไม่สุจริตไปด้วยเพราะฉะนั้นคนที่ตัดสินใจถ้าผลีผลามก็แย่ ผมคิดว่าเรื่องไม่จบง่ายๆ ในวันนี้พรุ่งนี้ “ นายสุเทพ กล่าว
“จนถึงวันนี้ผมก็ยังไม่เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นฝ่ายค้าน ถ้าผมเป็นฝ่ายค้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะกลับมาแน่ ซึ่งผมไม่อยากเจอ พ.ต.ท.ทักษิณ และผมไม่เชื่อว่าพรรคพลังประชาชนจะทำตามเงื่อนไขของใครได้ เพราะผมพอจะรู้นิสัยของหัวหน้าพรรคตัวจริงและหัวหน้าพรรคนอมินี ทั้ง 2 ท่านนี้เป็นคนที่ไม่เคยละเว้น อย่างคุณบรรหารเสนอไปด้วยความหวังดีก็โดนย้อนกลับมาแทบแย่ ”นายสุเทพ กล่าว |